ถิ่นกาขาว - ถิ่นกาขาว นิยาย ถิ่นกาขาว : Dek-D.com - Writer

    ถิ่นกาขาว

    คำทำนายแต่โบราณครั้งตั้งกรุง ถิ่นกาขาวคืออะไรใครอยากรู้ แวะมาดูเถิด...เพราะนี้มันคือ เรื่องของคนไทย

    ผู้เข้าชมรวม

    827

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    827

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  27 ธ.ค. 52 / 17:21 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    คำทำนายครั้งตั้งเสาหลักเมืองรัตนโกสินทร์

    ทุกสมัยมีเหตุแห่งการเปลี่ยนแปลงและสูญเสีย

    ถิ่นกาขาว คำนิยามแห่งราชวงค์จักรีองค์ที่ เก้า

    เชิญมาดูเถิดพี่น้องว่าถูกต้องหรือไม่?

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      แก...เคยได้ยินคำว่าถิ่นกาขาวมั้ย

      อะไรนะ

      ผมขมวดคิ้วตอบพี่ไพฑูรย์ไปอย่างไม่สนใจเท่าไหร่นัก เวลานี้ตอนเที่ยงนักศึกษาเกรดกลางๆอย่างพวกผมมักชอบแอบมารวมหัวกันพักผ่อนในห้องอาหารของมหาวิทยาลัย ด้วยเหตุผลสุดคลาสสิกคือ ไม่มีที่ไป

      ก็ไอ้คำว่าถิ่นกาขาวเนี่ยนะ ที่จริงเราเคยได้ยินกันมานานแล้วละ บางก็ว่าเป็นพุทธทำนาย บางก็ว่าเป็นปริศนาธรรมที่พระเถรรุ่นใหญ่ในอดีตทำนายทายทักไว้ แต่ทุกคนก็มีความเห็นตรงกันว่าเป็นเรื่องของเมืองไทยในยุคนี้

      ทำไมพี่ ถิ่นกาขาวมันเกี่ยวกับเมืองไทยยุคนี้ยังไง

      อ้าว ไอ้นี้ ฟังแล้วก็ลองคิดตามหน่อยซิวะ ว่าเกิดอะไรขึ้น ถึงมีคนว่าถิ่นกาขาวมันเกี่ยวข้องกับเมืองไทยยุคนี้ อุตสาห์เรียนเอกภาษาไทยทั้งที คิดซิ

      คนไทยเราหน้าขาวขึ้นใช่ไมพี่ เพราะไปที่ไหนก็มีแต่คนใช้ครีมทาหน้าทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่เลย

      ไม่ใช่โว้ย ไอ้นี้บทจะคิดก็คิดตื้นจริงเว้ย พี่ไพฑูรย์เกาหัวพร้อมทำสีหน้าหนักใจคำว่าถิ่นกาขาวน่ะ เขาน่าจะเปรียบเปรยถึงเมืองไทยในยุคสมัยที่มีฝรั่งเดินทางมาหากินกันเยอะ คนไทยจะทำอะไรก็ทำตามแบบฝรั่ง จนวิถีชีวิตแบบไทยกำลังถูกกลืนกลายเป็นยุคที่คนไทยเอาใจฝรั่งบนแผ่นดินไทยเอง

      หมายถึงเมืองไทยสมัยนี้เหรอ

      ผมนึกย้อนถึงเวลาเดินเล่นตามถนน ที่มักจะมองเห็นฝรั่งผมทองเดินปะปนกับคนไทยผมดำละลานตา บ้างใส่เสื้อเชิ้ตผูกเนกไทกำลังรอรถแท็กซี่ด้วยท่าทางกระวนกระวาย บ้างแบกเป้เดินทางยืนดูแผนที่เป็นกลุ่ม บ้างนั่งกินสุกี้แนบเนียนไปกับคนไทยในร้านฝั่งตรงข้ามถนน ไม่สังเกตก็ไม่ทันเห็นว่ามีคนต่างชาติปะปนกลมกลืนในเมืองไทยมากมายขนาดนี้ บางคนมาท่องเที่ยว บางคนมาอยู่ถาวร บางคนมาทำมาหากินจนกิจการใหญ่โต

       

      ความเงียบเข้าปกคลุมทันที...

       

      งานประชุมผู้แทนฝ่ายขายของบริษัทไอศกรีมชื่อดังแห่งหนึ่งจัดขึ้นมาเป็นวันที่สามแล้ว ห้องจัดเลี้ยงใหญ่ของโรงแรมวงศ์ทองดูแคบลงไปถนัดตากับงานเลี้ยงใหญ่นี้ทันที สองวันแรกเป็นการอบรมและการประชุมของผู้จัดการส่วนการขายภาคอีสาน วันสุดท้ายนี้เองจึงมีกิจกรรมรื่นเริง

      และมีการแจกทุนต่างๆให้แก่นักเรียนนักศึกษา เวทีถูกตกแต่งใหม่อย่างหรูหราอลังการ พนักงานโรงแรมวิ่งวุ่นเข้าออกห้องประชุมไม่หยุด ผมและเพื่อนๆมายืนรอกันที่หน้าประตูห้องประชุมเพื่อรอรับทุนการศึกษาโดยนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่ผมได้รับเลือก อีกไม่นานกิจกรรมแห่งความสนุกสนานและของรางวัลมากมายก็จะมาถึง

      กู๊ดมอร์นิ่งเลดี้ส์แอนด์เจนเทิ่ลเเมนเวลคัมทู... พิธีกรพูดออกไมโครโฟนเสียงก้องกังวานทันทีที่ประตูเปิดออก นักเรียนนักศึกษาบางคนฟังออก บางคนฟังไม่ออกแต่ก็เดินตามกันไปจับจองที่นั่งตามธรรมเนียม ผมหันไปถามเพื่อนนักศึกษาด้วยกัน

      เฮ้ยนี้ ทำไมครั้งนี้เขาถึงกล่าวต้อนรับเป็นภาษาต่างดาววะ แล้วพวกเด็กๆจะรู้เรื่องไหมล่ะเนี่ย

      อ้าว แกไม่รู้อะไร ก็บริษัทนี้มีฝรั่งเขาซื้อหุ้นจากเจ้าของคนไทยไปเกือบครึ่งแล้ว พวกกรรมการบริหารก็มีฝรั่งเข้ามาเยอะแยะ แถมยังเปิดแผนกการตลาดต่างประเทศด้วย เราได้ทุนจากบริษัทโกอินเตอร์เชียวนะ เพื่อนผมพูดให้ฟังอย่างฮึกเหิม

      มันก็เหมือนกับว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทลูกครึ่งแล้วนะสิ

      ใช่ ก็เหมือนกับบริษัทยักษ์ใหญ่อื่นๆละวะ มีสักกี่เจ้ากันเชียวที่อยู่ได้โดยไม่ร่วมทุนกับชาวต่างชาติ เดี๋ยวนี้มันยุคตลาดเสรีแล้ว

      แล้วเคยมีบริษัทคนไทยใช้ไอ้ตลาดเสรีนี้ไปซื้อทุนถือหุ้นบริษัทในเมืองฝรั่งบ้างมั้ยเนี่ย

      ผมชะงักอยู่ที่ประโยคคำถามนั้นเพราะภาษาอังกฤษจากพิธีกรบนเวทีกำลังบอกกล่าวว่าขณะนี้พิธีการกำลังเริ่มต้นขึ้นแล้ว ขอเชิญคุณอ็อฟเฟอร์ นาร็อก ประธานกรรมการบริหารคนใหญ่ของบริษัทและคุณคมสัน ขาวงาม ผู้จัดการทั่วไปขึ้นกล่าวบนเวที

                      ชายชราไทยคนหนึ่งกับชายฝรั่งวัยหนุ่มมีพลังอีกคนเดินขึ้นเวทีคนละด้านมาพบกันตรงกลาง ในฐานะผู้บริหารระดับสูงกว่านายอ็อฟเฟอร์จึงได้กล่าวเปิดงานก่อน ผิดกับปีที่แล้วที่ผมมารับทุนซึ่งนายคมสันหรือที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่า นายใหญ่ จะเป็นคนพูดเปิดงาน ถึงแม้นายใหญ่คนนี้จะเป็นผู้ปลุกปั้นบริษัทไอศกรีมนี้มากับมือและยังมีหุ้นในบริษัทนี้มากกว่าครึ่ง แต่ใครๆก็รู้ว่าเงินที่ใช้หมุนเวียนในบริษัทส่วนใหญ่นั้นมาจากบริษัทแม่ของนายอ็อฟเฟอร์ที่เมืองนอกทั้งสิ้น

                      ทุกสายตามองดูภาพคนไทยที่เคยเป็นนายใหญ่ยืนสงบเสงี่ยมเจียมตัวอยู่ด้านหลังนายฝรั่งคนใหม่ด้วยความรู้สึกต่างกัน แต่สำหรับผมแล้วภาพที่เห็นนั้นเสียดแทงใจยิ่งนัก

                      เจ้านายฝรั่งคนใหม่เริ่มต้นด้วยการทักทายเป็นพิธีอย่างกระฉับกระเฉงและตัดเข้าการบรรยายความสำเร็จของยอดขายที่ผ่านมาทันที พร้อมทั้งยังพูดถึงแผนการตลาดใหม่ที่จะรุกเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายคือเด็กประถมและมัธยม

                      ในปีหน้าเราจะรุกตลาดระดับโรงเรียนมากขึ้น โดยเป้าหมายของเราคือเป็นไอศกรีมอันดับหนึ่งในใจของเด็กไทยเท่านั้นนายฝรั่งพูดภาษาอังกฤษยืดยาว

      ภาพบนจอยักษ์ด้านหลังนายฝรั่งเปลี่ยนจากแผนภูมิเป็นภาพเด็กประถมในจังหวัดต่างๆที่กำลังเพลิดเพลินกับไอศกรีม บางคนทำหน้ากินไอศกรีมอย่างมีความสุขราวกับกินอาหารทิพย์ แต่ที่ผมสะเทือนใจมากที่สุดคือภาพสุดท้าย...

                      ภาพของเด็กในจังหวัดชายแดนห่างไกลกำลังกินไอศกรีมของบริษัทลูกครึ่งฝรั่งอย่างเอร็ดอร่อยทั้งๆที่ไม่มีรองเท้าจะใส่

      ผมปั่นจักรยานกลับบ้านด้วยใจที่ครุ่นคิดอะไรหลายอย่าง แบงค์สีเทาในกระเป๋าเงินผมไม่ทำให้ผมดีใจเท่าที่ควร

                      พี่ค่ะ ดูสิค่ะ ลูกของเราพูดภาษาอังกฤษได้แล้วนะ คำว่าพ่อกับแม่ไง ไหนลูกเรียกสิจ๊ะ มามี้ แด๊ดดี๊

                      เสียงออดอ้อนของสามีภรรยาข้างบ้านทำให้ผมนึกหงุดหงิดในใจ แน่ละสิ เล่นหยิบยืมเงินใครเขาไปทั่วเพื่อส่งลูกไปเรียนโรงเรียนนานาชาติเทอมละตั้งเป็นแสนๆ ใครบอกว่าความรู้ซื้อไม่ได้ก็ไม่รู้ ซื้อได้สิ แถมยังกู้เงินไปซื้อด้วย

      มามี...แดดดีเสียงใสๆของเด็กน้อยทำให้ผมนึกถึงแบบฝึกหัดภาษาไทยบทหนึ่งที่ว่า มานีมีตาขึ้นมาทันที

       

      ทำไมฝรั่งมันถึงมีอิทธิพลกับชีวิตของเรามากมายขนาดนี้วะ

      ผมกับพี่ไพฑูรย์กลับมานั่งในร้านอาหารห้องเดิม คู่สนทนาเดิม ต่างแต่เวลาหากอยู่ในยุคถิ่นกาขาวเหมือนเดิม

      แน่นอนซิ แรงงานราคาถูกค่าครองชีพต่ำ อาหารการกินสมบูรณ์ มีที่ตั้งทางทะเลที่ดีและที่สำคัญคนไทยยังยึดถือเคารพเชิดชูฝรั่งหยั่งกับเทวดา แล้วทำไมพวกกาขาวถึงจะไม่อยากมารุมทึ้งแผ่นดินนี้ล่ะ

      พี่ก็ว่าเกินไปผมถอนหายใจ

      ฉันไม่ได้ว่าเกินไปนะโว้ยพี่ไพฑูรย์กระชากคอเสื้อผมทันที แกใส่ชุดอะไรไปเรียนทุกวันนี้ล่ะ เสื้อเชิ้ตแบบฝรั่ง เนกไท  กางเกงสแล็กขายาว รองเท้าหนัง นาฬิกาข้อมือ เข็มขัด น้ำหอม กางเกงใน รถที่ขับ รูปทรงบ้านที่อยู่ มันเป็นของฝรั่งทั้งหมดหรือบางครั้งอาจจะมาจากฝรั่งเลยด้วยใช่มั้ยล่ะ ก่อนหน้านั้นไม่ใช่เราไม่มีเสื้อผ้าใส่ เราก็มีเสื้อผ้าฝ้ายพื้นเมือง มีน้ำอบ มีผ้าขาวม้า มีบ้านเรือนไทยบ้านทรงไทยอาศัยอยู่ แต่พวกเราทุกวันนี้กลับยอมรับว่าของฝรั่งดีกว่าไทยทุกอย่าง และยังเอามันมาเป็นนายชีวิตของตัวเอง ภาษาที่แกพูดที่แกเขียน เพลงที่แกฟัง เสื้อผ้าที่แกใส่ บ้านที่แกอยู่มันลอกแบบฝรั่งมาทุกอย่าง นี่ยังไม่นับพวกเกาหลีญี่ปุ่นด้วยนะ เมืองเราไม่ใช่แค่กาขาวบินมาหากินเท่านั้น แต่ยังเป็นถิ่นที่กาพื้นเมืองย้อมสีตัวเองทำทุกอย่างเพื่อจะเป็นกาขาวอีกด้วย

      มันก็จริงอย่างที่พี่ว่า ผมหลบสายตาลงต่ำไม่กล้าสู้หน้า

      เชอะ พี่ไพฑูรย์สะบัดมือออกแล้วนั่งเอนตัวลงเงียบถอนหายใจอยู่คนเดียว

      แก...เคยได้ยินคำว่าถิ่นกาขาวมั้ย

      ผมคงตอบพี่ไพฑูรย์ไม่ได้ว่ามันหมายถึงอะไร แต่ที่แน่ๆ ผมคิดว่าผมได้สัมผัสมันมากับตัวเองแล้ว...

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×